Description
เครื่อง Pneumatic 40×60 cm. 2 ถาด ปั๊มลม / เครื่องสกรีนเสื้อ
เครื่องสกรีนเสื้อ Pneumatic 40×60 cm. 2 ถาด ปั๊มลม หรือ การสกรีนเสื้อเป็นที่แพร่หลายมากยิ่งขึ้นในต่างประเทศ มีทั้งธุรกิจการขาย เครื่องสกรีนเสื้อ
จวบจนกระทั่ง เครื่องสกรีนเสื้อสกรีนพิมพ์ลายสำเร็จรูป เมื่อเป็นที่นิยมจำนวนมาก ทำให้ในประเทศเริ่มมีการนำเครื่องสกรีนเสื้อ เข้ามาจัดจำหน่ายอย่างแพร่หลาย
จึงทำให้ผู้คนจำนวนมากหันเข้ามาเพื่อลงทุน และ เริ่มต้นธุรกิจทางด้านการสกรีนเสื้อมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ช่องทางในการจัดหาซื้อ เครื่องสกรีนเสื้อ Pneumatic 40×60 cm
เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น วิธีในการสกรีนเสื้อ มี 3 วิธี แต่ละวิธี จะแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้เครื่องสกรีนเสื้อ การเลือกเนื้อผ้า ต้นทุนในการทำ
และ ลักษณะงานที่จะออกมามีให้เลือกหลายวิธีตามความชอบ ความเหมาะสม วิธีการสกรีนจะแบ่งได้ ดังนี้
1.การสกรีนลงบนผ้าโดยใช้บล็อกสกรีน (Silk Screen)
เป็นงานสกรีนแบบใช้บล็อกในการสกรีน สามารถสกรีนได้ทุกเนื้อผ้า สกรีนได้ทั้งผ้าสีเข้ม และ ผ้าสีอ่อน เหมาะกับการสกรีนเสื้อจำนวนมาก ๆ เพราะต้นทุนในการทำบล็อก
สกรีนค่อนข้างสูง ยกตัวอย่าง ถ้ารูปที่จะนำมาสกรีนมี 3 สี ต้องสร้างบล็อกสกรีนขึ้นมา 3 บล็อก ถ้าจะเปลี่ยนรูปก็ต้องสร้างบล็อกสกรีนขึ้นมาใหม่ ไม่สามารถใช้บล็อกสกรีนชิ้นเดิมได้
2.การสกรีนลงบนผ้าโดยตรง (Direct to Garment) เป็นงานสกรีนแบบพิมพ์ภาพลงไปบนผ้าโดยตรง จะใช้เครื่องปริ้นเตอร์ที่เฉพาะพิมพ์ผ้า งานสกรีนประเภทนี้
จำกัดประเภทของผ้าในการสกรีน เครื่องสกรีนเสื้อสามารถสกรีนได้เฉพาะผ้า Cotton 100 % สามารถสกรีนลงได้ทั้งบนผ้าสีอ่อน และ ผ้าสีเข้ม เป็นงานสกรีนที่สวย และ คมชัด
ใช้ต้นทุนสูง ขนาดในการสกรีนจะค่อนข้างจำกัด สามารถสกรีนได้ในขนาดที่ ไม่เกิน 50 ซม. * 50 ซม. การสกรีนลงบนผ้า โดยใช้ระบบรีดร้อน (Heat Transfer)
3.การสกรีนลงบนผ้าโดยใช้ระบบรีดร้อน (Heat Transfer) ในงานสกรีนวิธีนี้จะมีรูปแบบงานหลายประเภท มีทั้ง ซับลิเมชั่น (Sublimation) ,ทรานเฟอร์ (Transfer) , เฟล็ก (Flex)
และฟล็อก (Flox) เป็นงานสกรีนโดยใช้เครื่องรีดทำความร้อน (Heat Press) งานชนิดนี้จะแบ่งหมวดหมู่ ย่อยลงไปอีก แล้ววันนี้จะมาอธิบายรายละเอียด
ของ การใช้เครื่องสกรีนลงบนผ้าโดยใช้ ระบบรีดร้อน ( Heat Transfer ) อย่างที่บอกว่า
งานสกรีนประเภทนี้มีรูปแบบงานหลายประเภท ดังนี้
3.1. งานสกรีนประเภทซับลิเมชั่น (Sublimation) คือ งานสกรีนที่ย้อมสีลงไปบนเนื้องาน
แต่ต้องเป็นเนื้องานที่เฉพาะสำหรับงานสกรีน ในงานซับลิเมชั่น (Sublimation) จะสกรีนได้ทั้ง แก้ว , จาน , เคสโทรศัพท์ , แผ่นอะลูมิเนียม , แผ่นรองเมาส์
และ สิ่งต่าง ๆ ที่เป็นผ้า ฯลฯ ถ้าเป็นของจำพวกแก้ว , จาน , เคสโทรศัพท์ และ แผ่นอะลูมิเนียม จะต้องมีสารโพลิเมอร์เคลือบอยู่เท่านั้น ถึงจะสกรีนลงไปบน
เนื้องานนั้นได้ แต่ถ้าเป็นเสื้อจะต้องเป็นเนื้อผ้าใยสังเคราะห์ และ จะต้องเป็นผ้าสีขาว หรือ สีอ่อนเท่านั้น เนื้อผ้าใยสังเคราะห์ มีหลายชนิด เช่น ผ้าทีเค ( TK )
ผ้าไนลอน ( Nylon ) ผ้าพอลิเอสเทอร์ ( Polyester ) ผ้าอะคริลิค ( Acrylic ) ผ้าสแปนเด็กซ์ ( Spandex ) หรือ ไลครา ( Lycra ) ผ้าซีฟอง ( Chiffon ) ผ้า
ซาติน ( satin fabric ) ผ้าทีซี ( TC ) เนื้อผ้าชนิดนี้มีคอตตอน ( Cotton ) ผสมอยู่ อาจ ทำให้สีในกา รสกรีนไม่ชัดเจน หรือไม่เข้มเท่าเนื้อผ้าใยสังเคราะห์
100% ผ้าแคนวาส (Canvas) เป็นต้น
3.2. งานสกรีนประเภททรานเฟอร์ ( Transfer ) คืองานที่สกรีนได้เฉพาะบนเนื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ ถุงเท้า หมวก ผ้ากันเปื้อน ฯลฯ เป็นลักษณะงานที่นูนขึ้นมา
จากเนื้อผ้าเล็กน้อย เนื้องานทรานเฟอร์ ( Transfer ) จะมีลักษณะคล้าย ๆ ยาง สามารถยืดได้ รูปงานจะไม่แตก งานลักษณะนี้ จะให้สีที่สดกว่า ชัดเจนกว่า
และ จะมีต้นทุนในการทำที่สูงกว่างานสกรีนประเภทซับลิเมชั่น ( Sublimation )
3.3.งานสกรีนประเภทเฟล็ก ( Flex ) และ ฟล็อก ( Flox )
สามารถสกรีนได้ทุกสี ทุกเนื้อผ้า จะมีลักษณะนูนขึ้นมาจากเนื้อผ้าเล็กน้อย คล้ายงานสกรีนประเภททรานเฟอร์ (Transfer) มีเนื้องานให้เลือกหลายชนิด
เช่น เฟล็กพียู ( Flex PU ) , ( Flex Metallic ) หรือ เรียกอีกชื่อว่า ฟอยล์ ( Foil ) , เฟล็กโฮโลแกรม ( Flex Hologram ) และ ฟล็อก หรือเรียกอีกชื่อว่า กำมะหยี่ ( Flox )
เนื้องานแต่ละชนิดจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับการออกแบบดีไซน์ ( Design ) แฟชั่น ( fashion ) ในขณะนั้น ๆ และ ขึ้นอยู่กับสไตล์เนื้อผ้า
งานสกรีนประเภทนี้ เหมาะกับ ลายที่เป็นข้อความ ตัวอักษร เพื่อเน้นย้ำให้ผลงานเด่นชัดมากยิ่งขึ้น