Back to Uncategorized

เครื่องสกรีนเสื้อDFT

[องค์ประกอบเทมเพลต id=”9373″]

SKU: TH-DFT Category:

Description

เครื่องสกรีนเสื้อDFT เทคโนโลยีสร้างลวดลายบนเสื้อผ้าที่บ่งบอกความเป็นคุณ

          เครื่องสกรีนเสื้อDFT (Digital Film Transfer) คือ เทคโนโลยีการสกรีนลวดลายลงบนเสื้อผ้า ที่เน้นความทนทานและสวยงาม โดยในบทความนี้เราจะบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับวงการสกรีน เพื่อให้ทุกคนได้อ่านและเก็บเกี่ยวเป็นความรู้ หรือจะอ่านเพื่อเป็นแนวทางสำหรับศึกษาการทำงานของเครื่องว่าควรใช้งานอย่างไร จึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดก็ได้เช่นกัน เพราะทุกเรื่องที่คุณอยากรู้เราได้รวบรวมเอาไว้ให้อย่างครบถ้วนแล้ว 

 

ความเป็นมาของการสกรีน ก่อนที่จะถึงยุค เครื่องสกรีนเสื้อDFT

 

          การสร้างลวดลายด้วยเครื่องสกรีนเสื้อ DFT คือ วิธีการพิมพ์ภาพที่ต้องการลงบนแผ่นฟิล์มด้วยน้ำหมึกที่ใช้สำหรับการย้อมผ้าโดยเฉพาะ จากนั้นจะนำแผ่นฟิล์มมารีดด้วยความร้อนประมาณ 170-180 องศาเซลเซียส เพื่อให้ภาพแนบแน่นลงบนเสื้อ หรือเนื้อผ้าตรงตำแหน่งที่ต้องการ และหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ภาพบนแผนฟิล์มติดแน่นทนนาน คือ ผงกาวที่ใช้โรยไปบนเนื้อผ้าก่อนทำการสกรีน จะต้องเลือกใช้ผงกาวแบบเดียวกันกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ จึงจะครบองค์ประกอบของการสกรีนเสื้อด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยนี้

          แล้วยุคก่อนที่จะมีเครื่องสกรีนล่ะ พวกเขาสร้างลวดลายกันอย่างไร เราจะพาทุกคนย้อนอดีตกลับไปก่อนเทคโนโลยีจะเจริญรุ่งเรือง เพื่อให้ทุกคน ได้เข้าใจ ประวัติความเป็นมา ว่า แนวคิดการสกรีนเสื้อ และวัตถุสิ่งของ เริ่มมีมานานแล้ว และได้รับการพัฒนา มาทุกยุค ทุกสมัย ซึ่งหมายความว่า ธุรกิจนี้ ไม่เคยล้มละลาย หายไปไหน แต่กลับอยู่ใน กระแสความสนใจ ของผู้คน ในสังคม เสมอมา

          ย้อนอดีตกลับไป ในยุค ก่อนประวัติศาสตร์ เชื่อหรือไม่ว่า เราเคยใช้ ต้นแบบการสกรีน ในยุคปัจจุบันนี้ กันมาแล้ว นั่นคือการประทับ รอยฝ่ามือ ลงบนผนังถ้ำ หรือวัตถุต่าง ๆ โดยมนุษย์ ในยุคนั้น จะใช้วิธีการ จุ่มฝ่ามือ ลงในโคลน เลือด หรือของเหลวชนิดต่าง ๆ ก่อนที่จะ ไปประทับ ลงบนวัตถุ จากนั้น จึงพัฒนา มาสู่การ แกะสลักลวดลายลงบนหินหรือไม้ และเพิ่มความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนผ่านกาลเวลามาสู่ยุคดิจิทัล ที่เรามีเทคโนโลยี IoT รายล้อมอยู่รอบกาย การสร้างลวดลายลงบนเนื้อผ้าและวัตถุต่าง ๆ ก็ได้รับการพัฒนาเพื่อให้มีความประณีต ทนทาน และสวยงาม จนกลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับหลายครอบครัว 

โดยเทคโนโลยี เครื่องสกรีนเสื้อยืด ที่ได้รับการพัฒนา มาอย่างต่อเนื่อง และเรียกว่า เป็นการปฏิวัติ วงการพิมพ์ อย่างแท้จริง มีวิวัฒนาการอยู่ 4 แบบด้วยกัน คือ

 

  1. การพิมพ์แบบซิลค์สกรีน

เป็นรูปแบบการพิมพ์ ที่สร้าง ความฮือฮา เพราะเป็น จุดเริ่มต้นของการปฏิวัติ วงการพิมพ์ ด้วยการสร้างลวดลายลง บนบล็อก และนำมาทำ เป็นแม่พิมพ์ สำหรับการ พิมพ์ลวดลาย ลงบนเสื้อผ้า ซึ่งวิธีการนี้ จะเหมาะกับ การสกรีนลวดลาย ที่มี ความตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน และไม่ใช้สีเยอะ สามารถสกรีนบน เนื้อผ้าได้ทุกชนิด อีกทั้งยัง ผลิตได้ ครั้งละปริมาณมาก

  1. การพิมพ์แบบดิจิทัล

เป็นยุคเริ่มต้น ของการใช้ เครื่องสกรีนเสื้อยืด ด้วยวิธี พิมพ์น้ำหมึกลงบน เสื้อผ้า หรือวัตถุสิ่งของ โดยตรง มีความรวดเร็วในการทำงาน ช่วยให้ได้งาน ในปริมาณมาก อีกทั้งยัง สามารถสกรีน ลวดลายที่มี ความซับซ้อน ได้ดี ผลงานที่ออกมา มีความคมชัด และติดแน่น ทนนาน

  1. การพิมพ์แบบรีดด้วยความร้อน

วิธีการสกรีนที่ ใช้เครื่องพิมพ์ อิงค์เจ็ท หรือเครื่องพิมพ์ เลเซอร์ เข้ามาช่วย ในกระบวนการ สกรีนลวดลาย ด้วยวิธีพิมพ์ลวดลาย ลงบน กระดาษ (Transfer Paper) แล้วจึงนำไปรีดด้วย ความร้อน เพื่อให้น้ำหมึก ระเหิดลงไป บนเนื้อผ้า อย่างช้า ๆ สร้างเป็นลวดลาย ที่มีทั้ง ความละเอียด ประณีต ให้ความคมชัด และ ความทนทาน สามารถจัดการ กับลวดลายที่มี รายละเอียดเล็กน้อย ได้อย่างครบถ้วน สมบูรณ์แบบ

  1. การพิมพ์แบบใช้เครื่องสกรีน

เป็นเทคโนโลยีใหม่ สำหรับ วงการสกรีน ที่นำเอาวิธีการพิมพ์ แบบรีด ผ่านความร้อน มาใช้ แต่เปลี่ยนจาก การพิมพ์ลวดลายบนกระดาษ มาเป็น การพิมพ์ลวดลาย ลงบนแผ่นฟิล์มแทน และในกระบวนการสกรีน จะมีผงกาว คุณภาพ ที่ใช้ในอุตสาหกรรม สิ่งทอ มาเป็นตัวช่วย ยึดติดลวดลาย กับเนื้อผ้า ให้มีความสนิท แนบแน่น โดยที่ ไม่ต้องรอให้น้ำหมึกระเหิด ใส่เนื้อผ้า ก็สามารถลอก แผ่นฟิล์ม ออกได้ทันที ช่วยให้ กระบวนการทำงาน มีความรวดเร็ว อีกทั้ง การสร้างไฟล์ ลวดลาย ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ยังมี ความละเอียด สามารถออกแบบ เอกลักษณ์ ความเป็นตัวตน ได้ตามความต้องการ

 

เลือกได้ถูกและไม่สับสน ต้องรู้จักกับ เครื่องสกรีนเสื้อDFT, DTF และ DTG

หลายคนอาจมีความสงสัยว่า เครื่องสกรีนเสื้อ DFT, DTF และ DTG มีความแตกต่างกัน หรือจริง ๆ เป็นเพียงคำเรียกที่คล้าย ๆ กัน เมื่อกระบวนการผลิตก็คือสิ่งเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีการตั้งคำถามแบบนี้เกิดขึ้น เพราะเป็นการใช้ตัวย่อเพื่อความสะดวกสำหรับเรียกชื่อเครื่องสกรีนในแต่ละรูปแบบ จึงทำให้หลายคนมีความเข้าใจผิด และคิดว่าเป็นเรื่องเดียวกัน

แต่ในความเป็นจริงแล้ว การทำงานของเครื่องสกรีนเสื้อทั้ง 3 แบบนี้มีความแตกต่างกัน ที่คุณควรทราบเอาไว้เป็นพื้นฐานสำหรับการเลือกใช้งานให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ

 

  1. เครื่องสกรีนเสื้อDTG

เครื่องสกรีนเสื้อ DTG (Direct to Garment) มีกระบวนการทำงานที่ตรงกับชื่อเรียก คือ การพิมพ์น้ำหมึกโดยตรงลงสู่เสื้อผ้า ซึ่งส่วนใหญ่เสื้อผ้าที่เหมาะสมกับเครื่องชนิดนี้ มักจะเป็นเสื้อผ้าที่มีการตัดเย็บขึ้นรูปเป็นกระเป๋า เสื้อ หรือกางเกงมาเรียบร้อยแล้ว และโดยส่วนใหญ่เครื่องสกรีนเสื้อ DTG จะนิยมใช้น้ำหมึกพิกเมนต์ (Pigment) สำหรับพิมพ์ลงบนเสื้อผ้า โดยน้ำหมึกจะซึมเข้ายึดกับเนื้อผ้า สามารถใช้งานได้ดีกับเนื้อผ้าที่มีสีดำ, สีขาว, สีอ่อน และสีเข้ม ส่วนประเภทของผ้าที่นิยมนำมาใช้ ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าคอตตอนและผ้ายีนส์ ส่วนเนื้อผ้าใยสังเคราะห์มีการนำมาสกรีนบ้าง แต่จะต้องมีน้ำยาที่ใช้เป็นตัวช่วยสำหรับผ้าโพลีเอสเตอร์อีกหนึ่งตัว คือ น้ำยาพรีทรีตเมนต์ (Pre Treatment)

เครื่องสกรีนเสื้อยืด DTG นับเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมสำหรับการพิมพ์เสื้อยืด เนื่องจากไม่ต้องทำบล็อกแม่พิมพ์ ไม่จำกัดจำนวนชิ้นในการผลิต งานชิ้นเดียวก็สามารถสั่งพิมพ์ได้ อีกทั้งยังไม่จำกัดจำนวนสี เพราะตัวเครื่องสามารถผสมสีได้มากกว่า 10,000 สีด้วยระบบดิจิทัล ดังนั้นการสั่งทำเสื้อจำนวนมาก หรือจำนวนน้อย ต้นทุนการพิมพ์ก็จะเท่าเดิม และยิ่งในปัจจุบันน้ำหมึกพิกเมนต์ก็มีต้นทุนที่ถูกลงไปมาก ทำให้ค่าจ้างสำหรับงานพิมพ์ยิ่งมีราคาถูกลงไปด้วยและที่สำคัญเครื่องสกรีนเสื้อ DTG ยังมีหลายขนาดเพื่อรองรับทุกระดับธุรกิจ ตั้งแต่ร้านออกแบบเสื้อผ้า, ร้าน Print on Demand, ร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ ไปจนถึงอุตสาหกรรมการพิมพ์ผ้าขนาดใหญ่

  1. เครื่องสกรีนเสื้อDFT

มีกระบวนการทำงานด้วยการพิมพ์ลวดลายใส่ฟิล์มใส ๆ โดยที่เครื่องจะสามารถพิมพ์น้ำหมึกได้ทั้งสีน้ำเงิน, สีแดง, สีเหลือง, สีดำ และสีขาว จึงสามารถผสมเฉดสีได้มากกว่า 10,000 สี อีกทั้งตัววัสดุฟิล์มใสที่ใช้สำหรับพิมพ์ลวดลาย ก็มีต้นทุนที่ถูกมาก และเมื่อนำไปรวมกับต้นทุนการพิมพ์อื่น ๆ ยิ่งทำให้งานสกรีนด้วยเครื่อง DFT มีราคาถูก จนกลายเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ประกอบการจำนวนมากและดังที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า กระบวนการสกรีนด้วยเครื่อง DFT จะเป็นการนำเสื้อผ้าไปโรยด้วยผงกาวที่ใช้กันในอุตสาหกรรมสิ่งทอ เพื่อช่วยยึดติดสีกับเนื้อผ้า จากนั้นจะนำแผ่นฟิล์มที่พิมพ์ลวดลายเรียบร้อยแล้ว กับเนื้อผ้าที่โรยผงกาวไปรีดผ่านความร้อน ด้วยการนำแผ่นฟิล์มไปรีดให้ติดบนเสื้อผ้าด้วยความร้อนประมาณ 170-180 องศาเซลเซียส และใช้ระยะเวลาประมาณ 10-15 วินาทีเท่านั้น ก็สามารถลอกแผ่นฟิล์มออกมาได้ ตัวน้ำหมึกที่พิมพ์ใส่แผ่นฟิล์มจะมีผงกาวที่ถูกหลอมละลายเป็นตัวช่วยยึดติด “ลงไปในเนื้อผ้า” ไม่ใช่บนเนื้อผ้า หรือเรียกได้ว่าการสกรีนเสื้อด้วยเครื่อง DFT เป็นกระบวนการทำให้น้ำหมึกติดแน่นทนนานอยู่กับเนื้อผ้า โดยที่ไม่มีแผ่นฟิล์ม แผ่น PVCหรือแผ่นอื่นใดเหมือนในยุคอดีตเลยก็ได้ตัวเครื่องสามารถใช้งานได้ดีกับเนื้อผ้าหลากหลายชนิด เช่น ผ้าฝ้าย, ผ้าร่ม, ผ้า TC, ผ้า TK หรือแม้แต่ผ้าใยสังเคราะห์อย่างผ้าโพลีเอสเตอร์ ก็สามารถสกรีนลวดลายได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถสกรีนบนวัตถุสิ่งของได้หลากหลายพื้นผิว เช่น หมวกกันน็อก, กระเป๋า, กระเป๋าหนัง PU และกระติกน้ำ อีกทั้งการสั่งสกรีนงานในแต่ละครั้ง ยังสามารถสั่งได้ทั้งปริมาณมาก และปริมาณน้อย หรือแม้แต่งานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคุณเพียงชิ้นเดียวก็สามารถสั่งสกรีนได้ โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าบล็อกแม่พิมพ์กระเป๋าหนัง PU และกระติกน้ำ อีกทั้งการสั่งสกรีนงานในแต่ละครั้ง ยังสามารถสั่งได้ทั้งปริมาณมาก และปริมาณน้อย หรือแม้แต่งานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคุณเพียงชิ้นเดียวก็สามารถสั่งสกรีนได้ โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าบล็อกแม่พิมพ์กระเป๋าหนัง PU และกระติกน้ำ อีกทั้งการสั่งสกรีนงานในแต่ละครั้ง ยังสามารถสั่งได้ทั้งปริมาณมาก และปริมาณน้อย หรือแม้แต่งานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคุณเพียงชิ้นเดียวก็สามารถสั่งสกรีนได้ โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าบล็อกแม่พิมพ์

  1. เครื่องสกรีนเสื้อDTF

เครื่องสกรีนเสื้อ DTF (Direct to Fabric) เป็นกระบวนการพิมพ์น้ำหมึกลงบนเนื้อผ้าโดยตรง โดยเนื้อผ้าในที่นี้หมายถึงผ้าที่เป็นม้วน หรือเป็นหลา เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วเครื่องสกรีนชนิดนี้จะนิยมใช้อยู่ในอุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นหลัก ซึ่งในปัจจุบันเครื่องสกรีนชนิดนี้กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้น เนื่องกระบวนการพิมพ์ผ้าตามโรงงานอุตสาหกรรม ได้เปลี่ยนผ่านจากยุคแอนะล็อก ซึ่งเป็นการสกรีนแบบดั้งเดิมอย่าง Flat-bed หรือแบบ Rotary ที่จะต้องมีขั้นตอนสำหรับการแยกสีที่ค่อนข้างซับซ้อน ไปสู่การทำงานด้วยกระบวนการทางดิจิทัลที่ใช้เครื่องสกรีน DTF เป็นตัวผสมและควบคุมสีได้ตามความต้องการ

ประเด็นสำคัญคือ การสกรีนผ้าแบบแอนะล็อกจะต้องมีขั้นตอนก่อนการสกรีนค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบแม่พิมพ์ การขึ้นแบบ การแยกสี และการทำบล็อก ทำให้การสั่งสกรีนในจำนวนน้อยจึงไม่คุ้มกับต้นทุนที่เกิดขึ้น โรงงานส่วนใหญ่ที่ยังคงใช้การสกรีนแบบเดิมจึงมีการกำหนดขั้นต่ำในการสั่งสกรีนอยู่ที่ 10,000-50,000 หลา แต่สำหรับการทำงานของเครื่องสกรีน DTF ที่ใช้ระบบดิจิทัล ทำให้การสั่งขั้นต่ำที่ 1 หลา ก็สามารถรับสกรีนได้อย่างคุ้มค่า

จุดเด่นของเครื่องที่กลายเป็นขวัญใจกลุ่มผู้ประกอบการอย่างรวดเร็ว

ให้ชิ้นงานที่มีสีสันสวยงาม มีความละเอียดคมชัดและความเรียบเนียนไปกับเนื้อผ้า สามารถสกรีนลวดลายได้ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นลวดลายที่มีความละเอียดสูง หรืองานที่ใช้สีสันหลากหลาย เครื่องสกรีนเสื้อชนิดนี้ก็สามารถรองรับได้ทุกความต้องการ นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอื่น ๆ ที่ทำให้ครองใจกลุ่มลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว คือ

  • งานด่วนรอรับได้ทันที เครื่องสกรีน DFT เหมาะสำหรับผู้ต้องการสกรีนงานด่วนเพียงชิ้นเดียว และรอรับได้ทันที ด้วยเทคโนโลยีการรีดผ่านความร้อนสูง จะใช้เวลาเพียง 10-15 วินาทีเท่านั้น ชิ้นงานก็เสร็จทันเวลาที่ต้องการ
  • ลวดลายยืดหยุ่นได้ตามเนื้อผ้า เนื่องจากในกระบวนการสกรีน ความร้อนที่รีดผ่านแผ่นฟิล์มจะหลอมละลายผงกาวในอยู่ในเนื้อผ้า ทำให้สีติดแน่นทนนานและเรียบเนียนอยู่บนเนื้อผ้า เมื่อนำไปสวมใส่ลวดลายต่าง ๆ จึงยืดหยุ่นสวยงามไปตามเนื้อผ้า ไม่แข็งกระด้าง
  • ใช้ระบบดิจิทัล ซึ่งจะช่วยให้การผสมสีของเครื่องสกรีนสามารถออกแบบเฉดสีได้มากกว่า 10,000 สี โดยที่ไม่ต้องทำบล็อกแม่พิมพ์ และด้วยการควบคุมของระบบดิจิทัล ช่วยให้การเก็บรายละเอียดของงานมีความคมชัดแม้ตัวอักษรขนาดเล็ก
  • ไม่ต้องกังวลเรื่องการดรอปลงของสี เพราะในกระบวนการสกรีนจะมีการรองพื้นขาวด้านหลัง ดังนั้นสีที่ได้จึงเหมือนไฟล์ต้นฉบับไม่ผิดเพี้ยน แม้บนเนื้อผ้าสีเข้ม
  • สามารถสั่งสกรีนได้แม้งานเพียงชิ้นเดียว เพราะต้นทุนในสกรีนด้วยวิธีการนี้มีราคาถูกกว่าการสกรีนด้วยวิธีการอื่น จึงไม่จำเป็นต้องกำหนดปริมาณขั้นต่ำ
  • รองรับการสกรีนบนเนื้อผ้าทุกประเภท อีกทั้งยังดูแลรักษาง่าย ทนต่อการซัก และสีไม่หมอง ไม่ซีดจาง

สรุป เครื่องสกรีนเสื้อDFTเป็นเทคโนโลยีแห่งการสกรีนที่มีต้นทุนไม่สูง แต่มากด้วยประสิทธิภาพ ทั้งการเก็บรายละเอียดของลวดลาย การควบคุมและให้สีที่หลากหลาย และไม่จำกัดขั้นต่ำในการสั่งสกรีน อีกทั้งชิ้นงานที่ได้ยังทนทานต่อการซัก สีสันไม่ซีด และลวดลายยังคมกริบเหมือนไฟล์ต้นฉบับทุกประการ เป็นการให้บริการที่ตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่ได้เป็นอย่างดี ด้วยเวลาในการทำงานที่รวดเร็ว สามาถสร้างสรรค์ผลงานได้สวยดังใจต้องการ